วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Class 4 Out sourcing, Offshoring and IT as a Susidiary 30/11/53

Class 4  Out sourcing, Offshoring and IT as a Susidiary 30/11/53
                จากการเรียนในครั้งที่ผ่านมาทำให้มองเห็นถึงประโยชน์ของการนำ IT เข้ามาใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและบริหารจัดการ รวมทั้งลดต้นทุนจากการดำเนินงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามใช่ว่าทุกองค์กรจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้าน IT อยู่แล้วเสมอไป ดังนั้นบางองค์กรจึงไม่สามารดำเนินการบริหารจัดการระบบ IT ได้ด้วยตนเอง อาจแก้ปัญหาโดยการหาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกให้เข้ามาช่วยวางระบบและบริการจัดการให้ หรือที่เรียกว่า “IT Outsourcing”
โดยข้อดีของการ Outsource มีดังต่อไปนี้
·         ไม่ต้องเสียเวลากับงานที่ไม่ใช่จุดแข็ง สามารถ focus กับ core business
·         ลดต้นทุน จาก EOS
·         ลดความเสี่ยงในการพัฒนาได้ไม่ดี (เนื่องจากบริษัทที่ทำงานด้าน IT โดยเฉพาะก็จะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า
·         ลดต้นทุนในการฝึกพนักงาน เนื่องจาก IT มีการเปลี่ยนงานสูง
·         เพิ่มคุณภาพจากคาวามเชี่ยวชาญที่มากกว่า
·         สร้าง Innovation ในองค์กรได้รวดเร็วกว่า
ประเภทของการ Outsource
·         Outsource จากเจ้าเดียว กระจายความเสี่ยง
·         Outsource จากหลายเจ้า ความเสี่ยงสูง แต่แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญต่างกัน
ความเสี่ยงจากการ Outsource
·         Vendor ไม่ยอมทำตามสัญญา
·         Vendor พัฒนา app กับเราก็จริงแต่เอาไปขายให้คนอื่น
·         พอเรามี long term contract ทำให้อาจเกิดการทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม
ต้นทุนแอบแฝงจากการ Outsource
·         ค่าใช้จ่ายในการเปรียบเทียบเจ้าต่างๆ
·         ค่าใช้จ่ายติดต่อสื่อสาร
·         ค่าใช้จ่ายส่งมอบงาน
·         ค่าใช้จ่ายการถ่ายทอดความรู้ในบริการจัดการ
·         ค่าใช้จ่ายการส่งคนเข้ามาทำงานร่วมกัน
กลยุทธ์สำหรับการบริการความเสี่ยงจากการ Outsource
·         เข้าใจความต้องการของตนเองให้ชัด
·         แบ่งงานออกเป็นส่วนๆแล้วค่อยๆทำ
·         มีการให้แรงจูงใจกับกิจกรรมที่ทำ
·         ตกลงแบบสัญญาระยะสั้นจะช่วยให้ active มากขึ้น
·         ควบคุมไม่ให้เกิดการ outsource ต่ออีกทอด (ป้องกันคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน
·         เลือก Outsource เฉพาะส่วนที่ไม่ได้เป็น core business ของเรา
            Offshore outsourcing คือ การ outsource ออกไปยังพื้นที่หรือประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช้ประเทศตน ซึ่งใช้ประโยชน์จากต้นทุนที่ต่ำกว่า หรือความชำนาญและทรัพยากรที่ต่างกันในแต่ละประเทศ โดยมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาเริ่มจากดูว่าประเทษที่เราไปจ้างมีความเชี่ยวชาญด้านนี้หรือไม่ โครงสร้างพื้นฐานมีคุณภาพสนับสนุนกับกิจกรรมของเราหรือไม่ นอกจากนี้ยังต้อคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย โดยความเสี่ยบงที่อาจเกิดจากการ Offshore outsource มีดังนี้
·         บางทีต้นทุนอาจจะไม่ได้ต่ำลงจริงๆหากคิดถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เพิ่มขึ้น
·         ความปลอดภัยของข้อมูล ส่งไปไกลควบคุมลำบากมากขึ้น
·         อาจจะทำให้ innovation ในองค์กรลดลงจากการให้คนอื่นทำให้
·         ขาดการเรียนรู้จากกระบวนการภายใน
·         Vendor ส่งงานได้ไม่ดีหรือไม่ทันเวลา
·         ตกลงไว้อย่างหนึ่งพอทำงานเป็นอีกแบบหนึ่ง
                จะเห็นได้ว่าทั้งการ Outsource แบบ offshore และภายในประเทศล้วนมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้นจึงต้องกำหนดเกณฑ์การเลือกบริษัทเพื่อ outsource จากการดูว่าเขามีความสามารถที่จะทำงานได้ดีหรือไม่ โดยอาจใช้ balance scorecard เป็นมาตรวัด ซึ่งหากเอางานไปให้หลายเจ้าทำก็ต้องใช้ตัววัดเดียวกันเพื่อให้การวัดผลเป็นมาตรฐาน เพื่อที่จะสามารถก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


Acquiring IT
·         Buy  ซื้อเมื่อไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงในการใช้งาน มีความต้องการใช้ระบบนี้ถาวรยาวนาน มีบุคลากรในการดูแลรักษา
·         Rent ช่าระบบสารสนเทศเมื่อเทคโนโลยีคงมีการเปลี่ยนแปลงจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน สามารถเปลี่ยนระบบได้
·         In-house development สร้างเองเมื่อระบบที่เราต้องการยังไม่มีในท้องตลาด หรือระบบเก่าลงทุนไปเยอะแล้วแต่เราต้องการพัฒนาต่อ
                อย่าง ไรก็ตามเมื่อนำ ระบบเข้ามาใช้ในองค์กรก็ต้องมีหารบริการจัดการซึ่งบต้องครอบคลุมด้านต่างๆ ได้แก่ วัฒนธรรม กฎหมาย การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง การบริหารความเสี่ยง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น