วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Class 3: TPS 22/11/53

Transaction process system (TPS)
                TPS หรือ ระบบประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลง พัฒนาครั้งแรกในปี 1950 หลังช่วงสงครามโลก ช่วยในเรื่องการทำงานที่มีลักษณะซ้ำๆกัน โดยทำหน้าที่รวบรวม Transaction ที่เกิดขึ้นในแต่ละหน่วยงานหรือองค์กร ทำให้ระบบนี้เป็นระบบพื้นฐานที่มีความสำคัญมากต่อการดำเนินงานขององค์กร เนื่องจากข้อมูลที่เข้าไปอาจถูกนำไปใช้ต่อในระบบอื่นดังนั้นความถูกต้องของข้อมูลที่ใส่เข้าไปในระบบจึงมีความสำคัญมากป้องกันการเกิดปัญหา GIGO

คุณสมบัติ TPS
1.                Reliability
2.               Standardization
3.               Controlled access

ลักษณะของ TPS
·      รองรับการประมวลผลจำนวนมาก
·      ข้อมูลส่วนใหญ่จะมาจากภายใน และผลที่ได้มักตอบสนองการใช้งานภายในเป็นหลัก
·       มีการประมวลผลข้อมูลต้องมีการจัดทำเป็นประจำ
·       ระบบต้องมีความสามารถในการเก็บฐานข้อมูลจำนวนมาก
·        มีการประมวลข้อมูลที่รวดเร็ว
·       ข้อมูลที่ป้อนเข้าและผลิตออกมีลักโษณะโครงสร้างชัดเจน
·        ความซับซ้อนของเทคโนโลยีมีน้อย
·        มีการรักษาความปลอดภัย และรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
·        การประมวลผลมีความน่าเชื่อถือสูง

วงจรของการประมวลผล
1.              Data entry ขั้นตอนในการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ  เช่น POS ในร้านสะดวกซื้อ
2.               Transaction processing การประมวลผลมี 2 แบบ
-real time ข้อมูลถูกประมวลผลในทันที/ online/require high fault tolerant
-batch เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ก่อนแล้วค่อยทำการประมวลผล ไม่จำเป็นต้องออนไลน์
3.               Data base updating การบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูลและจัดการกับฐานข้อมูล ต้องคำนึงถึงความถูกต้องและความเป็นปัจจุบันของข้อมูล
4.               Document report ผลิตรายงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบสั่งซื้อสินค้า ใบรายการขาย ใบแสดงสถานะของลูกค้า ใบแสดงสินค้าคงเหลือ
5.               Inquiring processing รับคำร้องสอบถามข้อมูลจากผู้ใช้ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ตลอดทั้งระบบจัดการฐานข้อมูล  นำเสนอในรูปแบบเอกสารสำหรับพิมพ์ หรือแสดงออกมาทางหน้าจอ 

วัตถุประสงค์ TPS
1.               ตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นประจำวัน
2.               ผลิตและเตรียมสารสนเทศสำหรับระบบประเภทอื่นๆ
โดยผู้ใช้งาน TPS จะเป็นผู้ทำงานในระดับปฏิบัติการและควบคุมดูแลระดับล่าง

 Marketing Information System Application
-mass customization DELL and Jaguar
-PersonalizationCar and car insurance
-Advertising and Promotion Target market through e-mail
-Improving shoppingRFID tag payment  เช่น self service

Human Resource  Information System
- payroll, work time, recruitment online, training, benefit admin, requiring
- Training device เช่น virtual reality ,interactive simulation (เกมส์ขับเครื่องบิน ของกัปตันฝึกหัด)

Web analytic tool
                เช่น Google Analytic ที่ใช้วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าในการเข้าชมเว็บไซด์


In house Logistic and material management
E-Procurement
                E-Procurement  เป็นระบบการสั่งซื้อเครื่องใช้สำนักงานระหว่างบริษัทกับบริษัทเช่น office mate  (Slogan “สั่งของวันนี้ ได้พรุ่งนี้เลย”) โดยธนาคารทิสโก้ ใช้บริการ E-procurement ในด้านการจัดซื้อเนื่องจาก สะดวก ใช้งานง่าย ประหยัด ค่าใช้จ่ายในด้าน admin เนื่องจากไม่ต้องผ่านฝ่ายจัดซื้อ โดยก่อนเริ่มใช้งานต้องให้ความรู้กับการใช้งานก่อน
Improve shopping &Checkout at retail store
                นำ Technology RFID เข้ามาช่วย เช่น easy-pass(ทางด่วน)
ตัวอย่างการนำ TPS มาใช้ :
Case Dartmouth-Hitchcock Medical Center
                เดิมสต็อกของสินค้าในโรงพยาบาลต่างจะถูกบริหารโดยหมอและพยาบาล ซึ่งทำให้ลำบากต่อการสั่งของเนื่องจากไม่รู้ว่าต้องสั่งเมื่อไหร่ เท่าไหร่ ทำให้ระบบการสั่งของไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาไม่ให้ของ Under or over stock จึงนำเอาระบบ TPS เข้ามาใช้ ผ่านการใช้ wireless-handheld ในการแสกนสินค้าที่ออกมาจากสต็อกจะได้รู้ว่าเมื่อไรควรสั่งสินค้าเพิ่ม
Case TAXI in Singapore
                การนำระบบ GPS มาใช้เพื่อให้ Call Center รู้ว่ามี taxi คันไหนกeลังให้บริการอยู่ใกล้เคียงลูกค้าและเมื่อ Taxi ตกลงว่าจะไปรับลูกค้า ระบบก็สามารถเช็คได้ว่า Taxi คันนั้นไปรับลูกค้าตามนัดหรือไม่ ถึงแล้วหรือยัง

Presentation
1. RFID: Radio Frequency Identification
                ระบบชี้เฉพาะอัตโนมัติ Auto ID แบบไร้สาย (wierless) ซึ่งเป็นการระบุเอกลักษณ์วัตถุ หรือตัวบุคคลโดยใช้คลื่น เช่น การใช้ barcode และการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งระบบนี้จะมีความสามารถในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างน่าเชื่อถือ โดยปัจจุบันได้มีการพัฒนาเป็น RFID Tag ที่สามารถอ่านค่าผ่านคลื่นวิทยุจากระยะห่างเพื่อติดตามและบันทึกข้อมูลจากป้ายที่ติดอยู่กับวัตถุต่างๆ เช่น ระบบบันทึกข้อมูลการจัดการการผลิตสินค้าในโรงงาน การจำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้า  หรือบัตรรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น
RFID ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. TAG มี 2 แบบคือpassive และ active โดย active จะสามารถในการส่งข้อมูลได้ดีกว่า
2. Reader ทำหน้าที่แปลผลข้อมูล

2. Speech Recognition
                ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถแปลงเสียงพูด (Audio File) เป็นข้อความตัวอักษร (Text) โดยสามารถแจกแจงคำพูดที่มนุษย์พูดใส่ไมโครโฟน โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และเข้าใจคำศัพท์ทุกคำอย่างถูกต้องเกือบ 100%  สามารถนำไปใช้งานได้หลายอย่าง เช่น หมอ พยาบาล ทหาร หรือผู้ที่ไม่ถนัดการพิมพ์ ทนายความที่ต้องการความรวดเร็วในการบันทึกการไต่สวนในศาล การแปลอัตโนมัติ นักบินที่ต้องการใช้ระบบนักบินสั่งการอัตโนมัติ การสั่งการภายในรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ หุ่นยนต์ วีดีโอเกมส์ เป็นต้น

3. Virtualization
                เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องแม่ข่าย (Server) หนึ่งเครื่อง สามารถมีระบบปฎิบัติการ (Operating System : OS) หรือระบบเสมือน (Virtual System) อยู่ภายในได้มากกว่าหนึ่งระบบ ทำหน้าที่บริหารจัดการให้ระบบปฎิบัติการหลายๆ ตัวสามารถทำงานได้ในเครื่องเดียว ทำให้สามารถช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องแม่ข่าย และช่วยให้สามารถใช้งานเครื่องแม่ข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการระบบที่ดีขึ้นด้วย

4. Case Forensic accounting
                การใช้ทักษะด้านการเงินและแนวคิดด้านการสืบสวนสอบสวนเพื่อตรวจสอบความทุจริตในองค์กร
                รูปแบบของการทุจริตผ่านระบบ IT
1.       การฉ้อโกงโดยใช้ระบบคอม
2.       การเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบคอม
3.       การทำลายระบบคอม เช่น การส่งข้อมูลรบกวน
                ตัวอย่างวิธีในการทำทุจริต
1.     การปลอมแปลงอีเมล์ หรือ เวปไซต์
2.     การปลอมแปลงหมายเลข IP เพื่อเจาะเข้าไปในเครือข่าย
3.     การดักฟังข้อมูล หรือขโมยข้อมูลระหว่างทาง
4.     Salami technique โกงข้อมูลในด้านตัวเลข เช่น ทศนิยม 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น